กลับมาพบกับเรื่องราว lore น่ารู้ของเกมในชุด Ragnarok และ Ragnarok Online (RO) กันอีกเช่นเคย ก่อนหน้านี้ เราเคยนำเสนอเนื้อหาสุดระทึกของ Surt หรือ Satan Morroc ผู้มีบทบาทราวกับเป็นหัวหน้าตัวสุดท้าย ตัวร้ายหลักของ RO ไปเสียก็มิปาน ซึ่งในเนื้อหาดังกล่าว ได้ปรากฏเรื่องราวของนักรบผู้กล้านาม Thanatos ที่ได้ยืนหยัดเผชิญหน้าต่อสู้กับ Surt จนสามารถหยุดยั้งและปิดผนึกมันลงไปได้ครั้งหนึ่งด้วย
แต่หลายคนก็อาจจะยังสงสัยว่า Thanatos คนที่ว่านี้ เป็นใครมาจากไหน ? ทำไมถึงมีหอคอยชื่อเดียวกับเขาปรากฏออกมา ? แล้วทำไม ถึงกลายมาเป็น Boss MVP ให้เราได้สู้ แบบ กลายเป็นตัวร้ายไปแทนแล้วหรือเปล่า ? ซึ่งเนื้อหาของเราในครั้งนี้ ก็จะเป็นการตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับกระทาชายนาม Thanatos ผู้นี้ (เท่าที่เนื้อหาจะเอื้ออำนวย) โดยจะขอเริ่มต้น เล่าย้อนถึงวีรกรรมความกล้าหาญของเขา ตั้งแต่การมีส่วนช่วยปกป้องโลกจากการรุกรานของ Surt ไปจนถึงเรื่องราวหลังจากนั้น ที่ทำให้เขาปรากฏออกมาแบบนั้น…
Thanatos ผู้กล้า ผู้ปิดผนึกจอมมาร Surt
ในศักราช ปี A.W. ที่ 400 (A.W. = After War) หรือ 400 ปีหลังจากช่วงเวลาที่สงครามสิ้นสุดลง อสูรกาย จอมมาร Surt ได้สั่งให้ลูกน้องสร้างหอคอยขนาดใหญ่ขึ้นมา โดยหมายจะใช้มันเป็นทางเชื่อมต่อระหว่าง Muspelheim กับ Midgard และใช้มันเป็นเส้นทางในการลำเลียงกองทัพของพวกตนเข้ามารุกรานโลก Midgard อีกครั้ง หากแต่เมื่อพวกมันยกพลมาถึงยัง Midgard แล้ว พวกมันกลับต้องพบกับนักดาบนาม Thanatos ที่ปรากฏกายเข้ายืนหยัดเผชิญหน้ากับกองทัพของ Surt แต่เพียงลำพัง
Thanatos
Surt
ภาพฉากการปะทะกันระหว่าง Thanatos กับ Surt
ตามที่ปรากฏใน Ragnarok ฉบับการ์ตูนมันฮวา
Thanatos กับ Surt ได้เปิดฉากต่อสู้กันอย่างดุเดือด โดยศึกนี้ได้กินระยะเวลายาวนานถึง 10 วัน 10 คืน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เป็น Thanatos ที่เป็นผู้มีชัยเหนือศึกในครั้งนี้ เขาได้ลงดาบจัดการกับ Surt ในจังหวะสุดท้าย ก่อนจะลงมือผนึกบรรดาอสูรกายและบรรดาปีศาจทั้งหลายลงไปในรอยแยกของ Midgard ใต้ผืนทรายอันเวิ้งว้างและกว้างใหญ่ของทะเลทราย Sograt ก่อนที่จะมีการสร้างวิหารและนคร Morroc ขึ้นมาเหนือเขตพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการปิดผนึกทับเอาไว้
ส่วนตัว Thanatos นั้น… ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวจบลง เขาก็หายสาบสูญไป และไม่มีผู้หนึ่งผู้ใด ได้พบเห็นร่องรอยของเขาอีกเลย…
(อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ Surt หรือ Satan Morroc แบบเต็มๆ ได้ที่นี่…)
หอคอย Thanatos ในตำนาน
เวลาได้ล่วงเลยผ่านไป พร้อมๆ กับช่วงเวลาแห่งสันติภาพ ที่ผู้คนได้ลืมเลือนเรื่องราวและช่วงเวลาดังกล่าวไปจนหมดสิ้น ส่วนเรื่องราวการต่อสู้เพื่อปกป้องโลกของ Thanatos นั้น ก็หลงเหลือไปเป็นตำนานบทหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ที่ถูกร่ำลือ สืบทอดต่อๆ กันมา…
จวบจนกระทั่ง วันหนึ่ง ได้มีการค้นพบหอคอยขนาดสูงใหญ่ขึ้นในแถบพื้นที่ทางตะวันตกของเมือง Hugel หอคอยดังกล่าวมีทั้งหมด 13 ชั้น และเชื่อกันว่า มันเป็นหอคอยตัวเดียวกับหอคอยในตำนาน ที่พวก Surt ใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง Muspelheim กับ Midgard ในการขนกองทัพปีศาจของพวกตนมา ซึ่งภายหลังจากคราวที่ Surt ได้ถูกปิดผนึกลงไปนั้น หอคอยดังกล่าว ก็ถูกมนุษย์เข้ายึดครอง ก่อนจะทำการบูรณะมันขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะและความสำเร็จ ที่ Thanatos มีชัยเหนือจอมมาร Surt และพร้อมกันนั้น ก็ได้ตั้งชื่อเรียกหอคอยดังกล่าวว่า Thanatos Tower เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อทาง Thanatos นั่นเอง
Thanatos Tower
และในคราวนี้ หอคอยในตำนานดังกล่าวก็กลับถูกค้นพบขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านทางเครือข่ายของ Rekenber Corporation บรรษัทที่มีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลสูงสุดในสาธารณรัฐ Schwarzwald โดยแม้ว่าตัวหอคอยจะข้ามผ่านกาลเวลาจนมีสภาพชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก หากแต่ก็ยังเป็นหอคอยอันสูงใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างน่าเกรงขาม พร้อมทั้งร่องรอยอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร จากตำนานครั้งกาลก่อน ที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่
ทางฝ่าย Rekenber Corporation มองว่า การจะปล่อยหอคอยในตำนานเช่นนี้ให้ถูกทิ้งร้างเสื่อมโทรมจนตกในสภาพดังที่ว่านี้ นับเป็นเรื่องสูญเปล่าเป็นอย่างมาก พวกเค้าจึงหมายที่จะคืนชีพสถานที่ในตำนาน อันเป็นมรดกล้ำค่าในตำนานแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ โดยด้านหนึ่ง ก็หมายที่จะชูตัวหอคอยเป็นโบราณสถานในตำนาน เปิดมันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศให้มาเยี่ยมชม เพื่อที่จะสามารถทำรายได้ได้อย่างมากมายมหาศาล และในอีกด้านหนึ่ง ก็ต้องการไขความลับแต่โบราณ ที่ถูกซ่อนลึกอยู่ในชั้นบนของหอคอยแห่งดังกล่าว และหากพบสมบัติหรือร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณอะไร ที่จะเป็นประโยชน์ต่อความเจริญรุ่งเรืองของทางบรรษัท ก็จะได้หาทางหยิบฉวยมันกลับมาวิจัยทดลองได้
ความลี้ลับของหอคอย และความทรงจำแห่ง Thanatos
Rekenber Corporation ได้เริ่มต้นลงมือบูรณะหอคอย โดยเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณอาณาบริเวณรอบนอกของตัวหอคอย ไปจนถึงชั้นล่างสุดของหอคอย และได้เปิดมันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ไปก่อน โดยได้คอยเก็บค่าธรรมเนียมการเยี่ยมชมเข้าถึงจากบรรดานักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสะสมทุนทรัพย์ ให้มีมากเพียงพอสำหรับการสำรวจและการบูรณะหอคอยในส่วนที่เหลือได้
หากแต่หลังจากการบูรณะในส่วนแรกดำเนินไปเสร็จสิ้นได้ไม่นาน ก็เกิดแสงวาบที่เป็นดั่งฟ้าผ่า ส่องสว่างออกมาจากยอดชั้นบนสุดของตัวหอคอย มันเป็นแสงที่สว่างมากขนาดมองเห็นได้ไปไกลจรดถึงเมือง Einbroch และภายหลังแสงสว่างดังกล่าวได้จางหายลง สัตว์ประหลาดและเทวดาก็ปรากฏร่างออกมาจากชั้นบนภายในหอคอย ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมือกวาดล้าง เข่นฆ่า บรรดาผู้คนที่อยู่ที่นั่น จนแทบจะล้มตาย สูญสิ้นไปหมด และหลงเหลือผู้รอดชีวิตออกมาบอกเล่าเรื่องราว เหตุที่เกิดขึ้น ในจำนวนเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
Solace / Lady Solace
Observation / Dame of Sentinel
Shelter / Mistress of Shelter
Retribution / Baroness of Retribution
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าบรรดาเทวดา ทูตสวรรค์ที่ปรากฏตัวออกมานั้นมีที่มาจากไหนกันแน่ บ้างก็ว่าเป็นทวยเทพแต่โบราณที่พำนักพักอยู่ภายในหอคอย และคอยทำหน้าที่ปกป้องหอคอยแห่งดังกล่าว บ้างก็เชื่อว่าเทพเจ้าส่งเทวดาลงมาลงโทษมนุษย์ ที่อาจหาญเข้ามายุ่มย่ามกับหอคอยแห่งดังกล่าว บ้างก็ว่าเป็นการลงโทษของเทพเจ้า ต่อผู้ที่อาจหาญสร้างหอคอยเพื่อหมายเชื่อมโลกตั้งแต่แรก ไปจนถึงการร่ำลือว่า นี่เป็นเทพและปีศาจแต่โบราณ ที่หลงเหลือมาตั้งแต่ครั้งสงครามกับจอมมาร Surt ในอดีต
แต่แม้จะไม่สามารถหาที่มาที่ไปของบรรดาสัตว์ประหลาดและเทวดาที่ปรากฏออกมาได้อย่างแน่ชัด แต่สิ่งที่รู้ได้อย่างแน่ชัดเลยก็คือ สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมีระดับของภัยคุกคามสูง และหอคอย Thanatos ก็ยังเป็นสถานที่อันเปี่ยมด้วยความอันตรายอย่างยิ่งยวดด้วย หากแต่ทาง Rekenber Corporation ก็หาได้ถอดใจยอมแพ้ไม่ ทางบรรษัทยังตั้งใจที่จะไขความลับที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในหอคอยลงให้ได้ และเพื่อการนั้นเอง พวกเค้าก็ต้องการนักผจญภัย นักรบผู้กล้า มากสามารถ ที่สามารถมาจัดการกับบรรดาสัตว์ประหลาดและเทวดา และสามารถบุกฝ่าฟันไปสำรวจจนถึงชั้นบนสุดของหอคอยได้… (และแน่นอน นักผจญภัยหรือตัวผู้เล่นเรา ก็เลยได้มีส่วนเข้ามามีเอี่ยวอีกเช่นเคย)
จิตวิญญาณ ความทรงจำของ Thanatos แต่ครั้งกาลก่อน
มีผู้คนจากทั่วสารทิศ แห่แหนมาเยี่ยมชม จนถึงเข้าท้าทายปีนหอคอย Thanatos กันอย่างล้นหลาม หากแต่มีเพียงจำนวนน้อยนิดเท่านั้น ที่สามารถรอดชีวิตกลับออกมาได้ จวบจนมีกลุ่มนักผจญภัยมากฝีมือ (กลุ่มผู้เล่นเรา) ที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชน จนมีความแข็งแกร่งมากพอ จะฝ่าบุกตะลุยขึ้นไปยังแต่ละชั้นของหอคอยได้ โดยยิ่งบุกฝ่าขึ้นไปยังชั้นที่สูงขึ้นไปเท่าใด ศัตรูที่ปรากฏออกมา ก็ยิ่งมีความร้ายกาจมากตามขึ้นเท่านั้น
บรรดานักผจญภัยได้ปราบสัตว์ประหลาด ต่อสู้กับร่างเทวดาที่ปรากฏออกมา และบุกฝ่าขึ้นไปบนหอคอยทีละชั้น จนได้พบเข้ากับร่างวิญญาณปริศนา 4 รูปแบบ โดยในแต่ละร่าง ก็จะมีส่วนใบหน้าที่ถูกปกปิดเอาไว้ด้วยหน้ากากแต่ละแบบ และแม้ไม่รู้ว่าพวกมันทั้ง 4 เป็นตัวอะไรกันแน่ แต่บรรดานักผจญภัยก็สามารถสยบปราบพวกมัน และเก็บเศษชิ้นส่วนทั้ง 4 คือ เศษชิ้นส่วนแห่งความทุกข์ทรมาน ความสิ้นหวัง ความเกลียดชัง และความโศกา (Fragment of Agony / Despair / Hatred / Sorrow ) ที่หลงเหลือจากร่างของพวกมันแต่ละตัวมาได้
Dolor of Thanatos
Despero of Thanatos
Odium of Thanatos
Maero of Thanatos
และเมื่อบรรดานักผจญภัย บุกฝ่าขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของหอคอยได้เป็นผลสำเร็จแล้ว พวกเค้าก็ได้พบกับตราผนึก ที่กระจายอยู่ทั่วทั้ง 4 ทิศของยอดหอคอย และที่ตราผนึกแต่ละตรา กลับมีหลุมปริศนา ที่สามารถใส่เศษชิ้นส่วนที่พวกเค้าเก็บกลับมา ลงไปได้อย่างพอดิบพอดี
พวกเค้าจึงทำการใส่เศษชิ้นส่วนทั้ง 4 ลงไปในตราผนึกแต่ละที่ จนทำให้ตัวผนึกโบราณถูกปลดปล่อย พร้อมๆ กับร่างของ Thanatos ที่ได้ปรากฏตัวออกมา ในฐานะร่างวิญญาณแห่งความทรงจำแต่ครั้งกาลก่อนของ Thanatos (Memory of Thanatos / Thanatos Phantom) ก่อนที่ร่างดังกล่าวจะเปิดฉากเข้าต่อสู้กับผู้บุกรุก คือบรรดานักผจญภัยที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าในทันที
เรื่องราวความลี้ลับ ที่ยังคงหลงเหลือสืบไป…
ไม่มีใครรู้ว่าร่างดังกล่าวของ Thanatos มีที่มาที่ไปจากไหน และไม่มีใครรู้ว่า นั่นใช่ Thanatos ในตำนานตัวจริง แบบตัวเป็นๆ หรือไม่ แต่ร่างที่ปรากฏออกมาเป็นร่าง Thanatos ก็มีความร้ายกาจอย่างเป็นที่สุด แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของบรรดานักผจญภัยทั้งหมด ในที่สุด พวกเค้าก็สามารถสยบร่างดังกล่าวให้สูญสลายหายไปได้อย่างเป็นการชั่วคราว หลงเหลือทิ้งไว้แต่ปริศนาจากเรื่องราวทั้งหมด ที่ยังไม่ได้รับความกระจ่างกลับมา
ซึ่งด้านหนึ่ง ก็เชื่อว่านั่นเป็นจิตวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของตัว Thanatos ที่ยังคอยทำหน้าที่เฝ้าพิทักษ์หอคอย อันเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลก Midgard กับ Muspelheim และคอยจัดการทุกคนที่ได้บุกรุกผ่านเข้ามายังหอคอยจากทั้งสองฟากฝั่ง โดยไม่สนว่าจะเป็นใคร หรือรุกล้ำเข้ามาผ่านทางเส้นทางใด
อีกด้านหนึ่ง ก็เชื่อว่าเขาอาจจะเป็นความทรงจำในครั้งอดีตกาลที่ยังหลงเหลืออยู่ของ Thanatos ที่ได้ถูกผนึกลงไปในหอคอยแห่งดังกล่าว ร่วมกับอารมณ์ความรู้สึกด้านลบต่างๆ [ความทุกข์ทรมาน ความสิ้นหวัง ความเกลียดชัง และความโศกา ( Agony / Despair / Hatred / Sorrow )] ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งพลังงานความชั่วร้ายของ Surt จากในสงครามครั้งก่อน แล้วได้ถูก Thanatos ทำการแยกผนึกพวกมันเอาไว้กับตัวเอง ก่อนจะปิดผนึกทั้งหมดลงไปในหอคอยแห่งดังกล่าว
แต่เมื่อเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป ส่วนผนึกก็เริ่มมีการเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลา และเมื่อหอคอยได้ถูกค้นพบ และถูกรบกวนด้วยน้ำมือของมนุษย์ อารมณ์ความรู้สึกที่ได้ถูกปิดผนึกเอาไว้ จึงได้หลุดรอดออกมา จากความทรงจำของ Thanatos และได้อวตารกลายร่างไปเป็นร่างวิญญาณแห่งอารมณ์ด้านลบทั้ง 4 ที่แต่ละร่าง ก็มีเศษเสี้ยวแห่งผนึกความทรงจำ ที่สามารถประกอบ เพื่อใช้ปลดปล่อยร่างวิญญาณ ร่างในความทรงจำของ Thanatos ที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ออกมาได้
ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ Thanatos เท่าที่เรารู้ และเท่าที่ในเกมมีการเฉลยหรือให้ข้อมูลประกอบ จนให้เราพอคาดเดาและปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แต่ส่วนปริศนาส่วนที่เหลือ ตลอดจนตัวตนและเรื่องราวของ Thanatos ที่นอกเหนือไปจากนี้ ก็คงต้องรอให้เกมมีการอัพเดท และเปิดเผยเรื่องราวออกมาเพิ่มเติมเท่านั้นแล….
- ชื่อ Thanatos นั้น มีที่มาจากชื่อเทพเจ้าแห่งความตายตามตำนานกรีก อย่างที่เราหลายคนน่าจะคุ้นเคยรู้จักกันดี เพราะปรากฏในเกม การ์ตูน และสื่ออื่นๆ อยู่หลายตัวเหมือนกัน (เซนต์ เซย่า ก็เจ้านึงหละ)
- แนวคิดของหอคอย Thanatos ในส่วนที่ผู้คนร่ำลือว่า เทพเจ้าได้ทำการลงโทษความมักใหญ่ใฝ่สูงของมนุษย์ที่ได้เข้ามายุ่มย่ามกับตัวหอคอย ด้วยการส่งเทวดาลงมาลงโทษ และการที่หอคอยมีขนาดสูงใหญ่ และเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างโลกได้ เป็นแนวคิดที่น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากหอคอยบาเบล (Tower of Babel) ในพระคัมภีร์ ตามความเชื่อทางคริสต์ศาสนา ที่มนุษย์ในยุคโบราณเกิดคิดกำเริบเสิบสาน คิดจะสร้างหอคอยขนาดสูงใหญ่เทียมฟ้า ให้สูงจนไปจรดถึงฟ้าสวรรค์ จึงถูกพระเจ้าลงโทษเอา
- ชื่อของร่างอวตารแห่งอารมณ์ด้านลบทั้ง 4 ของ Thanatos เป็นศัพท์ภาษาลาตินและภาษากรีก ของคำที่มีความหมายอย่างเดียวกัน ซึ่งอาจเทียบเคียงกับภาษาอังกฤษได้ตามนี้;
Dolor = Pain / Agony ความทุกข์ทรมาน ความเจ็บปวด
Despero = Despair ความสิ้นหวัง
Odium = Hatred ความเกลียดชัง ชิงชัง
Maereo = Misery / Sorrow ความโศกา เศร้าใจ
Thanatos จากในเรื่อง Saint Seiya
The Tower of Babel
[ Lucas van Valckenborch (1535–1597) ]
ความรู้เล็กๆ น้อยๆ ก่อนซื้อ Saint Seiya Myth Cloth ของเล่น ที่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
เทพแห่งความสิ้นหวัง Surt (Satan Morroc) บอสใหญ่ที่แท้จริงของ RO ?
